วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2565

[งานแปล แก้ฟุ้งซ่าน] เรื่องสั้นแนวลึกลับจาก the-mystery.org Part 4

ต้นฉบับของงานแปลนี้นำมาจาก https://the-mystery.org 

ถ้าจะนำไปลงที่อื่น กรุณาบอกกันซักคำและให้เครดิตเว็บไซต์ต้นทางด้วย

งานนี้เป็นเรื่องสั้นหลายๆ เรื่องที่เราแปลสะสมไว้แล้วเอามาลงทีเดียว

เซ็ตต่อไปยังไม่มีกำหนดลง เพราะยังไม่ได้ทำต่อ

✱✱✱✱✱✱✱

รายการโทรทัศน์จากอนาคต

(ที่มา : https://the-mystery.org/strange_experience/mirai_kara_no_tv_housou/)


เมื่อประมาณ 15 ปีก่อน สมัยที่ผมยังเป็นเด็กชั้นประถมต้น ผมได้เจอเรื่องประหลาดเรื่องหนึ่ง

ตอนนั้นผมรอดูการ์ตูนที่จะเริ่มฉายตอน 5 โมงเย็น

หลังจากเพลงเปิดและโฆษณาจบ ผมคิดว่าในที่สุดการ์ตูนก็มาซะที แต่จู่ๆ หน้าจอก็กลายเป็นภาพซ่าๆ


สักพักก็มีภาพคล้ายๆ รายการข่าวขึ้นมา มีชายหญิงสองคนปรากฏตัวขึ้น ทั้งสองแต่งตัวเหมือนคนจากโลกอนาคตแต่ก็ดูเป็นชุดหลอกเด็กยังไงก็ไม่รู้

"ที่จริงตอนนี้เป็นเวลาฉายการ์ตูน แต่เรามีเรื่องที่ต้องแจ้งให้ทุกคนรับทราบ พวกเราเดินทางมาจากอนาคต ในยุคของเราเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ขึ้นแล้ว! กรุณาช่วยอนาคตด้วยเถอะ!"

แล้วพวกเขาก็ตั้งหน้าตั้งตาพูดต่อไปเรื่อยๆ

ส่วนผมก็คิดตามประสาเด็กว่า "อะไรเนี่ย มารอตั้งแต่เพลงเปิดแล้วนะ เอาการ์ตูนมาซะทีเหอะน่า" พลางนั่งมองพวกเขาอ้อนวอนอย่างเอาเป็นเอาตายผ่านทางโทรทัศน์จอตู้


"...เพื่อเป็นหลักฐานว่าเรามาจากอนาคตจริงๆ เราจะบอกเรื่องญี่ปุ่นในอนาคตให้คุณรู้ เท่าที่เราสามารถพูดได้"

ดูเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่กว่าที่คิดแฮะ

พวกเขาพูดอย่างจริงจังว่า

"เราไม่สามารถบอกเลขปีได้เพราะเกี่ยวข้องกับความลับของประเทศในอนาคต แต่ในวันข้างหน้า ญี่ปุ่นจะได้รับผลกระทบจากสงคราม ทำให้ต้องย้ายเมืองหลวงไปที่พื้นที่เมืองมหาวิทยาลัยสึกุบะ จังหวัดอิบารากิ..."

หลังจากนั้นพวกเขาก็ขอให้เรา "ช่วยเปลี่ยนอนาคตให้ที" "ไม่มีเวลาแล้ว" ต่อไปอีกพักหนึ่ง


แล้วหน้าจอก็กลายเป็นภาพซ่าๆ อีกครั้ง ก่อนจะเปลี่ยนเป็น End Credit ของการ์ตูนตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


ตอนนั้นแม่ที่อยู่ในครัวก็ออกมาดูผมบ้าง จึงไม่ใช่ว่าผมหลับแล้วฝันไปแน่นอน

ผมไปเปิดหนังสือพิมพ์เช็คผังรายการโทรทัศน์ ในนั้นก็ยังบอกว่าวันนี้ฉายการ์ตูนตามปกติ

หลังจากนั้นไม่กี่วัน ผมก็ไปถามเพื่อน เพื่อนผมก็บอกว่า "วันนั้นก็มีการ์ตูนตามปกตินี่"


นี่แหละครับ ประสบการณ์แปลกประหลาดของผม


✱✱✱✱✱✱✱

จากตัวผมในอนาคต

(ที่มา : https://the-mystery.org/strange_experience/post-3490/)


นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน


ตอนนั้นผมยังเป็นลูกคนเดียว พอกลับจากโรงเรียนอนุบาลก็เล่นเกมด้วยเครื่องฟามิคอมบ้าง เล่นคนเดียวที่สวนสาธารณะหน้าบ้านบ้าง

จนผมได้เจอพี่ชายคนหนึ่ง เขามักมาเล่นกับผมบ่อยๆ เวลาอยู่สวนสาธารณะ แต่ผมก็จำไม่ได้หรอกว่าเรารู้จักกันหรือเริ่มเล่นกันได้ยังไง

ถึงจะบอกว่าเป็นพี่ชาย แต่สำหรับผมในตอนนั้นแล้ว เรียกว่า "คุณน้า" น่าจะเหมาะกว่า อายุเขาน่าจะราวๆ 27-28 ปี

ภาพลักษณ์ของเขาค่อนข้างแปลก เขาไว้ผมยาวเหมือนผู้หญิง ใส่เสื้อผ้าเป็นแบบที่ผมไม่คุ้นตา หน้าตาก็ดูยังไงๆไม่รู้

แต่พี่เขาใจดีกับผมมาก เล่นบอลด้วยกันบ้าง สอนเทคนิคลับเวลาเล่นเกมให้บ้าง

อีกเรื่องที่ผมจำได้คือ เขามักพูดบ่อยๆว่า "ดูแลแม่ให้ดีนะ" กับ "ถ้ามีน้องแล้ว ต้องคอยดูน้องให้ดีๆ"


พอผมขึ้นชั้นประถม ผมจนมีเพื่อนใหม่หลายคน ผมก็ไม่ค่อยได้เจอพี่ชายคนนั้นอีก

จนตอนปิดเทอมฤดูร้อน ป.5 วันนั้นผมมีนัดออกไปเล่นกับเพื่อน แต่ผมต้องอยู่เฝ้าน้องสาวที่ตอนนั้นเพิ่งจะ 3 ขวบ อยากออกไปเล่นแต่ก็ไปไม่ได้

ผมคิดอยู่ว่าน่าเบื่อชะมัด แต่แล้วน้องสาวผมก็หลับกลางวันไป ผมจึงกะว่าระหว่างนี้จะออกไปเล่นแล้วรีบกลับ

แต่ทันทีที่ออกจากบ้าน ผมก็เห็นพี่ชายคนนั้นยืนโบกมือให้ผมอยู่ที่สวนสาธารณะหน้าบ้าน

เขาเป็นคนที่รูปร่างหน้าตาแปลกๆ และยังไม่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเลย เมื่อเห็นผมจึงรู้ทันทีว่าเป็นเขา


ผมกับเขาคุยกันเรื่องทั่วๆไปว่า "ไม่ได้เจอกันนานนะ" "จะไปไหนเหรอ" แล้วพี่พูดกับผมด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า

"พี่เคยบอกไว้ใช่มั้ยว่าถ้ามีน้องแล้ว ต้องคอยดูน้องให้ดีๆ วันนี้อย่าเพิ่งออกไปเล่น รอวันที่แม่อยู่บ้านแล้วค่อยออกไปนะ"

ด้วยความที่ผมยังเด็ก ผมจึงยอมกลับบ้านไปดูน้องอย่างว่าง่าย

ผมกลับไปดูน้องที่นอนอยู่ที่โซฟา น้องสาวที่เมื่อครู่ยังดูแข็งแรงดีกลับเหงื่อท่วมตัว ชัดเจนว่าน้องมีไข้สูง

ผมรีบโทรไปบอกแม่ที่กำลังทำงานพาร์ทไทม์

แม่ที่ทำงานอยู่ไม่ไกลจากบ้านนักก็รีบกลับมาทันที ไม่ถึง 10 นาที เราสามคนก็พากันออกไปโรงพยาบาล

หมอบอกว่าถ้าปล่อยไว้นานอีกหน่อยน้องจะเป็นปอดบวมซึ่งอันตรายถึงชีวิต


หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้เจอกับพี่ชายคนนั้นอีกเลย

ผมนึกเท่าไหร่ก็ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับพี่ชายคนนั้นเลย แต่ไม่นานมานี้ก็มีเรื่องหนึ่งที่ทำให้ผมแปลกใจ


ผมรู้สึกว่าหน้าผมกับหน้าของพี่ชายคนนั้นดูคล้ายกันมาก


เป็นเรื่องแปลกที่ผมไม่มีวันลืมเลย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น